วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

iPod touch 4

รีวิว iPod touch 4            

          เชื่อว่าเป็น iPod ที่หลายคนกำลังเล็งอยู่ว่าจะเวิร์คมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นความเร็วความแรง หรือ FaceTime ที่จะช่วยให้ลดค่าโทรศัพท์ได้จริงหรือไม่ รีวิวนี้มีคำตอบสำหรับทุกคำถามแล้ว
รูปร่างหน้าตา
iPod touch 4G ว่าไปด้านสรีระถือว่าเปลี่ยนไปจากเดิมไม่มากนัก โดยถ้าดูด้านหน้าก็จะมีกล้องถ่ายรูปที่อยู่เหนือหน้าจอเป็นจุดเล็ก ๆ ด้านบนมีปุ่ม Power/Sleep อยู่ทางด้านขวา ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียงอยู่หลบเข้าไปด้านในเล็กน้อย ส่วนด้านหลังมีกล้องถ่ายรูปอยู่ด้านมุมบนซ้ายใกล้ ๆ กันมีไมโครโฟนอยู่ด้วยถือว่าเป็นจุดรับเสียงเพียงหนึ่งเดียวบนตัวเครื่อง โดยในส่วนของพลาสติกดำ ๆ ที่เคยมีมาทุกรุ่น ซึ่งแอปเปิ้ลบอกว่าจะช่วยทำให้การรับสัญญาณ Wi-Fi ดีขึ้นนั้น พอมารุ่นนี้พลาสติกดำ ๆ ที่ว่าไม่มีแล้ว ทำให้ด้านหลังเครื่องแลดูสวยขึ้นเล็กน้อย สำหรับด้านท้ายเครื่องไล่จากซ้ายไปขวามีช่องลำโพง, ช่อง Dock Connector และช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม.โดยทุกช่องตำแหน่งจะอยู่เยื้องเข้าไปด้านหลังเล็กน้อย
ด้านความบางของตัวครื่องถือว่าบางมาก ๆ ซึ่งพอนำมาเทียบกับรุ่นที่แล้วที่ว่าบางแล้ว iPod touch 4G ก็บางลงไปอีกกว่าเดิมอีกเล็กน้อยจนคิดว่ารุ่นต่อไปจะบางลงได้กว่านี้อีกรึเปล่า ส่วนน้ำหนักถ้าดูจากสเป็คเทียบกับรุ่นเดิมอาจจะรู้สึกไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ ระหว่าง 101 กรัม ของรุ่นนี้ กับ 115 กรัมของรุ่นที่แล้ว
โดยรวมสำหรับตัวเครื่องเรื่องหน้าตาไม่พัฒนาเท่าไหร่ เพราะหน้าตาก็ยังคงคล้าย ๆ เดิม แต่รุ่นนี้ได้ทำการนำพลาสติกสีดำที่ด้านหลังเครื่องออกไปทำให้ตัวเครื่องแลดูหล่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อยถึงปานกลาง

ด้านการใชังาน (ในส่วนนี้จะขอเน้นฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่)
เร่ิมกันที่หน้าจอของ iPod touch 4G ที่เป็นแบบเดียวกับ iPhone 4 คือ Retina Display ความละเอียดหน้าจอ 960×640 พิกเซลซึ่งเป็นความละเอียด 2 เท่าจากหน้าจอรุ่นก่อน ๆ ทำให้การแสดงผลระดับพิกเซลบน iPod touch 4 มีความละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม 4 เท่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าจอคมชัดขึ้นมาก ๆ ชนิดที่ว่ามอง iPod touch 4G นาน ๆ แล้วไปมอง iPod touch รุ่นเก่าสามารถรู้สึกได้่เลยว่าทำไมจอรุ่นเก่าที่เคยชัดตอนนี้เร่ิมจะเบลอ ๆ ไม่ชัดเสียแล้ว เท่าที่สังเกตได้อีกอย่างสีดำของหน้าจอจะดำสนิทมากขึ้น โดยเมื่อนำทั้งสองเครื่องมาวางเทียบกับจะเห็นได้ว่า iPod touch 4G หน้าจอจะดำสนิทกว่าแบบเห็นได้ชัด
ซ้าย : iPod touch 2G / ขวา : iPod touch 4G
ด้วยความที่หน้าจอละเอียดขึ้นก็ทำให้ตัวหนังสือที่แสดงผลอยู่บน iPod touch 4G ก็คมกริบตามไปด้วย ซึ่งถ้าเทียบตัวหนังสือที่เปิดจากหน้าเว็บเดียวกันและมีการขยายตัวหนังให้ใหญ่เต็มที่เท่าที่จะทำได้จะเห็นได้ชัดว่าตัวหนังสือบน iPod touch 4G ชัดกว่าแบบชนะขาดลอย
ซ้าย : iPod touch 2G / ขวา : iPod touch 4G
และแม้ชิ้นส่วนหน้าจอของ iPod touch 4G จะไม่ใช่ชนิด IPS เหมือนที่อยู่ใน iPhone 4 ซึ่งใครต่อใครก็บอกว่าสีสันบนหน้าจอของ iPod touch 4G สู้บน iPhone 4 ไม่ได้จากที่เห็นและได้ใช้เองสีบนหน้าจอของ iPod touch 4G  จะติดอมเหลืองมากกว่าที่ผ่าน ๆ มาเล็กน้อย โดยเมื่อนำหน้าจอมาเทียบกันระหว่าง iPod touch 2G กับ iPod touch 4G จะเห็นได้ว่าสีบนหน้าจอของ iPod touch 4G จะติดอมเหลืองแบบเห็นได้ชัด ส่วนการแสดงผลที่บอกว่าสีเพี้ยนนั้น เอาจริง ๆ ก็คือการจับผิดชนิดที่ต้องเอียงหน้าจอในมุมกว้าง 150 ไปจนถึง 170 องศาถึงจะเห็นว่าหน้าจอสีไม่เท่ากันเช่นมองเสยจากล่างขึ้นบนหน้าจอเหมือนจะติดอมฟ้า พอมองจากด้านขวาหน้าจอเหมือนจะติดอมเหลือง ซึ่งในความเป็นจริงการใช้งานปกติเราคงไม่ได้เอียงเครื่องขนาดนั้นเพราะโดยปกติการใช้งานเราก็จะตั้งหน้าจอให้ขนานกับสายตาของเราอยู่แล้ว อานิสงค์ของหน้าจอคมกริบทำให้เวลาดูวิดีโอต่าง ๆ ที่เราใส่ลงไปภาพจะดูสวยขึ้นตามไปด้วย โดยในส่วนของวิดีโอ iPod touch 4G รองรับไฟล์วิดีโอได้ถึงขนาด 720p อีกด้วย

ด้านความแรง
สำหรับ iPod touch 4G ใช้ซีพียู A4 ความเร็ว 1GHz ตระกูลเดียวกับที่อยู่ใน iPad และ iPhone 4 ซึ่งการใช้งานไม่ต้องนำมาเทียบกับรุ่นเก่าก็รู้สึกได้ว่าเร็วและแรงกว่าเดิมเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการกดหรือจ้ิมใช้งานอะไรก็เร็วชนิดตามใจสั่ง โดยในการทดสอบผมลองเปิดหน้าเว็บ pantip.com ห้อง MBK เทียบกันระหว่าง iPod touch 2G กับ iPod touch 4G จาก Wi-Fi เดียวกัน พบว่า iPod touch 4G โหลดหน้าเว็บเสร็จเรียบร้อยจนหน้าจอดับไปเองแล้วสักพักใหญ่ ๆ iPod touch 2G ถึงจะโหลดหน้าเว็บเสร็จ
สำหรับการเปิดเล่นเกมหรือแแอพฯต่าง ๆ ด้วย iPod touch 4G สามารถเข้าแอพฯได้เร็วขึ้นมาก โดยหลาย ๆ เกมที่จะเสียเวลาในช่วงก่อนเข้าเกม เช่น ขึ้น Loading… พอเป็น iPod touch 4G ก็จะใช้เวลาสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด

ถ่ายรูปนิ่งและวิดีโอ
สำหรับกล้องถ่ายรูปที่อยู่ใน iPod touch 4G มีทั้งด้านหลักที่เป็นกล้องหลักและกล้องด้านหน้าที่เป็นกล้องที่ 2 โดยความละเอียดของกล้องด้านหลังจะอยู่ที่ 7 แสนพิกเซล ส่วนกล้องหน้าอยู่ที่ 3 แสนพิกเซล เชื่อว่าส่วนนี้หลายคนผิดหวังบ้างพอควรเพราะแอปเปิ้ลก็กั๊กไว้ สำหรับกล้องใน iPod touch 4G ไม่มีระบบออโต้โฟกัสแต่อย่างใด การที่เราแตะหน้าจอแล้วขึ้นกรอบสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เหมือนบน iPhone 3GS หรือ iPhone 4 ไม่ใช่การแตะหน้าจอเพื่อโฟกัสภาพ แต่เป็นแตะเพื่อปรับแสง โดยเท่าที่ลองใช้กล้องใน iPod touch 4G ในส่วนของ  White Balance ไม่เก่งเท่าใน iPhone 3GS คือถ้าบางครั้งที่เราจะถ่ายรูปตัวเครื่องจะมีการปรับแสงและ White Balance ให้อยู่บ้างแล้ว แต่พอเทียบกันกับ iPhone 3GS จะเห็นได้ชัดว่าเพี้ยน ๆ อยู่บ้างเหมือนกัน
สำหรับคุณภาพของภาพที่ได้จากกล้องของ iPod touch 4G ถ้าแสงแรง ๆ แดดจัด ๆ ก็พอรับได้สำหรับกล้องความละเอียด 7 แสนพิกเซล (แค่พอรับได้จริงๆ) แต่ถ้าเป็นการถ่ายภาพในร่มหรือกลางคืนอย่าหวังอะไรมากเพราะนอยซ์มาเต็มชนิดไม่เกรงใจเจ้าของเครื่องกันเลยทีเดียว สรุปว่าภาพนิ่งใน iPod touch 4G อย่าหวังอะไรมากแค่พอถ่ายได้ ว่าไปกล้องใน iPod touch 4G ก็เหมือนย้อนไปในยุคที่กล้องในโทรศัพท์มือถือเร่ิมมีความละเอียดกล้องราว ๆ 1 ล้านพิกเซลแบบที่ไม่มีออโต้โฟกัส
ในส่วนของการถ่ายวิดีโอที่สามารถถ่ายได้ถึงระดับ HD (720p) เท่าที่ได้ทดสอบจัดว่าอยู่ในระดับที่ดีน่าพอใจ โดยเราได้ทดสอบบันทึกวิดีโอในช่วงเย็น ๆ ราว 17.00 น. ภาพที่ได้ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิด ผิดกับการถ่ายภาพนิ่งที่ผลลัพธ์ไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่ ข้อด้อยของการถ่ายวิดีโอเท่าที่ได้ทดสอบก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการปรับแสงที่ยังทำได้ไม่เร็วเท่าไหร่ ทำให้ขณะถ่ายวิดีโอมีจังหวะที่แสงเพี้ยน ๆ ไปบ้างเล็กน้อย สำหรับการถ่ายวิดีโอตอนกลางคืนก็ได้ลองแล้วเช่นกัน โดยเราได้ลองถ่ายคลิปช่วงกลางคืนที่มีแสงไฟถนนยามค่ำคืนมาสั้น ๆ เท่าที่ดูรายละเอียดในภาพก็ยังถือว่าทำได้ดีพอประมาณแม้จะมีนอยซ์เยอะไปหน่อยก็ตาม
โดยรวมสำหรับการถ่ายรูปนิ่งและวิดีโอแบ่งครึ่งกันระหว่างดีในส่วนของการถ่ายวิดีัโอกับแย่ในส่วนของภาพนิ่งปน ๆ กันไป
**สำหรับตัวอย่างวิดีโอที่ถ่ายด้วย iPod touch 4G ที่อยู่ใน YouTube แนะนำให้เปิดชมแบบ 720p HD และขยายเต็มจอเพื่อให้ใกล้เคียงกับไฟล์ต้นฉบับมากที่สุด ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ในไฟล์วิดีโอบน YouTube จะต่างกับไฟล์จริงอยู่บ้างเล็กน้อยราว ๆ 10 เปอร์เซ็นต์

FaceTime
ฟีเจอร์โดดเด่นที่ทำให้ iPod touch 4G  เป็นที่พูดถึงว่าเป็น iPhone 4 ย่อม ๆ ก็คือ FaceTime หรือการสนทนาแบบวิดีโอผ่านทาง Wi-Fi ระหว่างคนที่ใช้ iPod touch 4G/iPhone 4 ด้วยกัน
สำหรับการใช้งาน FaceTime ใน iPod touch 4G จะใช้วิธีโทรออกด้วยอีเมลที่เราใช้เป็น Apple ID ซึ่งในตัวเครื่องก็จะมีส่วนของการลงทะเบียนว่าจะใช้ Apple ID เดิมหรือจะสมัครใหม่ก็ได้ เท่าที่พบปัญหาจากการลงทะเบียนในส่วนนี้พบว่าเจออาการคล้าย ๆ กันทั่วโลกคือใช้อีเมลเป็น Apple ID ลงทะเบียนไม่ผ่าน โดยผมลองทั้งสองอีเมลที่เป็น Apple ID ทำยังไงก็ไม่สามารถลงทะเบียนผ่าน สุดท้ายลองใช้อีเมลของ MobileMe ที่เป็นบริการของแอปเปิ้ลเอง แต่ผมไม่ได้ใช้เป็นอีเมลของ Apple ID ใดๆ ดันผ่านฉลุย โดยเรื่องนี้วิธีแก้ไขแบบแน่นอนเป็นแนวทางเดียวยังไม่มี เพราะในส่วนของฟอรั่มในเว็บแอปเปิ้ลบางคนก็แนะนำว่าให้รีสโตร์เครื่องบ้าง ให้เปลี่ยน Wi-Fi ที่ใช้บ้าง ให้ถอด Firewall ใน Router บ้าง ซึ่งหลาย ๆ วิธีที่ยกตัวอย่างรวมถึงวิธีอื่น ๆ ที่ไม่ได้เอ่ยถึงบางคนก็สามารถแก้ได้บางคนก็ไม่สามารถแก้ได้ ซึ่งก็สรุปได้กลาย ๆ ว่าปัญหานี้เป็นที่เซิฟเวอร์ของแอปเปิ้ลเอง
ด้านการใชั FaceTime จะใช้วิธีโทรหาปลายทางด้วยเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล โดยการใส่เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลเพิ่มเข้าไปใน Contacts หรือจะใช้วิธีซิงค์ข้อมูลในส่วนของ Contacts จากเครื่องคอมพิวเตอร์มายัง iPod touch 4G ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ในจังหวะการโทรหาคนอื่นที่ใช้ FaceTime ด้วยกันอาจรอนานไปบ้าง ยิ่งถ้าโทรหาเพื่อนที่ใช้ iPod touch 4G ด้วยกันบางครั้งต้องยอมรับว่าเสียงริงโทนจาก iPod touch 4G เบามากทำให้ไม่ค่อยได้ยินว่ามีคนโทรมาให้เรา
ด้านการโทรด้วย FaceTime ยอมรับว่าอึ้งไปเล็กน้อย เพราะภาพที่ได้ขณะคุย FaceTime ชัดแจ๋วแบบไม่มีกระตุกถ้าอินเตอร์เน็ตที่ใช้มีความเร็วมากพอ (ความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ FaceTime ต้องการเริ่มต้นที่ 256 kbps) ซึ่งเท่าที่ลองทั้งแบบใช้งานอยู่บ้านที่อินเตอร์เน็ตเร็วประมาณ 6 Mbps ภาพที่ได้ไหลลื่นดี แต่ด้วยความที่ระบบ White Balance ของ iPod touch ไม่เก่งและคุณภาพกล้องไม่ดีเท่าไหร่ภาพจากกล้องด้านหน้าเลยจะมืด ๆ ไปบ้าง สำหรับการใช้งานนอกสถานที่โดยการจับคู่ iPod touch 4G กับ Mi-Fi (Huawei E5830) ใส่ซิม 3G ในเครือของทีโอทีใช้งานได้สบาย ๆ โดยตัว Mi-Fi ใช้ 3G และสัญญาณออกมาเป็น Wi-Fi ทำให้ตัวเครื่องก็สามารถใช้ได้ทั้งอินเตอร์เน็ตและ FaceTime ได้สบาย ๆ เท่าที่ทดสอบบริเวณสยามสแควร์ 3G ในเครือทีโอทีใช้คุย FaceTime ได้แบบไม่กระตุก ยกเว้นว่าเปิดใช้งานภายในอาคารต่าง ๆ ที่สัญญาณของทีโอทีจะไม่ค่อยมี
สำหรับปัญหาของการคุย FaceTime บน iPod touch 4G ก็คือเสียงจากลำโพงเบามาก แถมตัวไมโครโฟนของเครื่องก็ดันอยู่ด้านหลังทำให้การคุยแบบถือเครื่องเปล่า ๆ จะได้ยินเสียงสนทนาเบาพอควรแม้เปิดเสียงลำโพงดังสุดและปลายทางก็ได้ยินเสียงเราค่อนข้างเบาเนื่องจากไมโครโฟนอยู่ด้านหลังทำให้รับเสียงจากด้านหน้าได้น้องลง ซึ่งวิธีใช้งาน FaceTime ที่เวิร์คที่สุดสำหรับ iPod touch 4G คือใช้หูฟังที่มีไมโครโฟนมาให้ด้วยในตัว ซึ่งจะทำให้การสนทนาด้วย FaceTime สนุกขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด (ในกล่องแอปเปิ้ลแถมหูฟังปกติที่ไม่มีไมค์มาให้)

ใช้ FaceTime แล้วช่วยลดค่าโทรศัพท์จริงหรือไม่
บังเอิญว่าช่วงที่ iPod touch 4G ออกใกล้เคียงกับการจำหน่าย iPhone 4 ในไทยมาก ฉะนั้นผมก็พยายามดึงรีวิวให้ล่าช้าเล็กน้อยเพื่อที่ต้องทดสอบเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ (ขอแก้ตัวชัดๆ)
เท่าที่ใช้ FaceTime กับเพื่อน ๆ ที่ซื้อ iPhone 4 มาใช้ พบว่าถ้าคุณเป็นประเภทอยู่บ้านหรืออยู่ในสถานที่ ๆ มี Wi-Fi ตลอดเวลาจะสะดวกเป็นอย่างมากและช่วยลดค่าโทรศัพท์ได้บ้างเล็กน้อย เพราะขึ้นอยู่กับว่ารอบตัวเรามีคนใช้ iPod touch 4G หรือ iPhone 4 มากน้อยแค่ไหน เพราะอย่างผมเองรอบตัวเปลี่ยนมาใช้ iPhone 4 กันเยอะ ฉะนั้นแทนที่ตอนค่ำ ๆ เวลากลับบ้านก็ไม่ต้องกดโทรศัพท์ปกติแล้ว กลายเป็นกด FaceTime แทนก็ช่วยประหยัดค่าโทรได้บ้างเฉลี่ย ๆ ก็วันละ 5 นาที ถ้าใช้บ่อย ๆ ทบหลาย ๆ วันเดือนนึงก็ช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์ได้พอควร

แบตเตอรี่
ด้านแบตเตอรี่ของ iPod touch 4G เท่าที่ทดสอบถือว่าความอึดของแบตเตอรี่อยู่ในระดับกลาง เพราะด้วยความที่มีฟีเจอร์ต่าง ๆ เพิ่มเติมพอได้ใช้งานทั้งกล้องถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ เล่น FaceTime ฟังเพลงบ้าง เล่นอินเตอร์เน็ตบ้าง ตลอดวันพบว่าไม่เกิน 8 ชั่วโมงแบตเตอรี่ก็ขึ้นขีดแดงแล้ว ส่วนถ้าใช้งานแบบเล่นบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ แบตเตอรี่สามารถรองรับการใช้งานได้วันกว่า ๆ แบบสบาย ๆ
สรุปสำหรับ iPod touch 4G ถือว่าเป็นรุ่นที่ทำออกมาได้ครบสมบรูณ์มาก ๆ ทั้งในเรื่องความประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ซีพียู A4 ทำหน้าที่ได้ดีจริง ๆ ส่วนฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง FaceTime ว่าไปก็เหมือนการคุย Video Chat บนเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่แค่เราสามารถ Video Chat กับเพื่อน ๆ ที่ใช้ iPod touch 4G หรือ iPhone 4 ด้วยกันได้ทุกที่ ๆ มี Wi-Fi ส่วนเรื่องน่าติก็คงเป็นแบตเตอรี่ที่ทำได้ไม่ค่อยดี ยิ่งถ้าเทียบกับคีย์เวิร์ดของแอปเปิ้ลที่พยายามจะวาง iPod touch เป็นเครื่องเล่นเกมด้วยส่วนหนึ่ง ยิ่งรู้สึกได้เลยว่าแอปเปิ้ลควรใส่แบตเตอรี่ความจุสูงกว่านี้มาให้ iPod touch 4G เครื่องนี้

จุดสังเกต
-ประสิทธิภาพเยี่ยม
-อย่าหวังอะไรมากกับรูปถ่าย
-ถ่ายวิดีโอแบบ HD ได้ค่อนข้างดี
-แบตเตอรี่ไม่อึดมากนัก

6 ความคิดเห็น: